ตามเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission ภายในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของโลกที่เน้นความยั่งยืน หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคบรรจุภัณฑ์พลาสติกจึงต้องปรับตัวโดยสร้างแบรนด์สินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภค และนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาใช้โดยเน้นที่ความยั่งยืนยิ่งขึ้น

บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิลและพลาสติกชีวภาพ

ความนิยมในพลาสติกรีไซเคิลและพลาสติกชีวภาพกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทว่าปัจจุบันนี้มีขยะพลาสติกทั่วโลกที่ถูกนำมารีไซเคิลเพียงร้อยละ 16 ตามการวิเคราะห์โดย McKinsey โดยที่ PET (Polyethylene Terephthalate) และพอลิโอเลฟินส์ (polyolefins) เป็นประเภทของพลาสติกที่ได้รับการรีไซเคิลมากที่สุด และคาดว่าจะถูกนำมาใช้เพิ่มขึ้นในภาคบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้ NexantECA คาดว่าการบริโภคพอลิโอเลฟินส์รีไซเคิลจะเติบโตร้อยละ 7.8 ในช่วงปี 2564-2573

ขณะเดียวกัน พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) ซึ่งทำจากวัตถุดิบตั้งต้นที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและมีราคาถูก เช่น โปรตีนจากถั่ว ข้าวโพดข้าวสาลี มันฝรั่ง มันสำปะหลัง ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน เพราะช่วยลดการใช้ไฮโดรคาร์บอนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

แนวทางยุคใหม่ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติก

บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะผสานเทคโนโลยี

ปี 2025 จะเป็นปีแห่งบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ฝัง QR Code, แท็ก RFID หรือชิป NFC เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าแก่ผู้บริโภค และป้องกันการปลอมแปลง

บรรจุภัณฑ์ที่ปรับแต่งได้

ผู้บริโภคในปี 2025 คาดหวังประสบการณ์จากบรรจุภัณฑ์ที่ปรับแต่งได้ โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์ที่ขายตรงถึงผู้บริโภคผ่านอีคอมเมิร์ซ 

บรรจุภัณฑ์แบบมินิมอลและโปร่งใส

บรรจุภัณฑ์แบบมินิมอลใช้ปริมาณวัสดุที่น้อยลง ซึ่งดึงดูดผู้ซื้อที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบโปร่งใสยังช่วยให้ผู้บริโภคมองเห็นผลิตภัณฑ์และสร้างความไว้วางใจได้

บรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่น

บรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2025 ถุงแบบตั้งได้ ถุงแบบปิดผนึกซ้ำได้ และหลอดบีบจะครองตลาด

บรรจุภัณฑ์ที่รับประทานได้

คาดว่าบรรจุภัณฑ์ที่รับประทานได้ซึ่งทำจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น สาหร่ายหรือแป้ง จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นภายในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

บรรจุภัณฑ์สำหรับอีคอมเมิร์ซ

บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการจัดส่ง โดยเน้นความเบาและทนทานจะช่วยลดต้นทุนการจัดส่งในขณะที่ยังคงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีความสำคัญต่อแบรนด์มากขึ้นในปี 2025

บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้จะยังคงได้รับความนิยมเพื่อลดขยะแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งส่งเสริมวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่ยาวนานขึ้นและเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสุขภาพ

บรรจุภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีป้องกันจุลินทรีย์เพื่อรักษาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารและยา จะเป็นสิ่งจำเป็นในปี 2025

บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาเพื่อลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์

บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาไม่เพียงช่วยลดการใช้วัสดุ แต่ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งโดยลดน้ำหนักโดยรวมของสินค้าที่จัดส่งและปริมาณของพลังงานที่ใช้ในการขนส่งสู่ปลายทาง

โอกาสและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลาสติกและบรรจุภัณฑ์

แนวโน้มของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์จะมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจต่างๆ ควรสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการออกแบบที่ชาญฉลาดเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และคงไว้ซึ่งศักยภาพในการแข่งขัน

มาร่วมหาโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกที่ยั่งยืนได้ที่งาน อินเตอร์พลาส ไทยแลนด์ 2025 งานแสดงเครื่องจักร เทคโนโลยี เคมีภัณฑ์ และวัตถุดิบสำหรับการผลิตพลาสติก ที่ครบครันที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 32 วันที่ 18-21 มิถุนายน 2568 ได้ที่ไบเทค บางนาฯ!

ที่มา:

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/524-iaa-sustainability-packaging-2024

https://www.allprintok.co.th/bioplastic

https://brownpackaging.com/10-top-2025-packaging-trends-to-expect/#9