Manufacturing Expo Logo
18 - 21 มิถุนายน 2568

นวัตกรรมจัดการขยะอัจฉริยะช่วยลดผลกระทบของโรงงานต่อสิ่งแวดล้อม

    ยากจะปฏิเสธว่าโลกของเรากำลังเผชิญวิกฤตการจัดการขยะ อันเป็นผลจากการจัดการของเสียอย่างไม่เป็นระบบ อาทิ การไม่บำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องก่อนปล่อยลงแหล่งน้ำ หรือการไม่แยกขยะให้ถูกประเภท โดยในปี 2567 ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGD Move) รายงานว่าประเทศไทยมีปัญหาขยะเพิ่มขึ้นถึง 28-29 ล้านตันต่อปี ซึ่งหากการบริหารจัดการขยะบนฝั่งไม่ถูกต้องจะมีขยะรั่วไหลลงทะเลจำนวนมาก โดยเฉพาะขยะพลาสติกซึ่งสร้างความเสื่อมโทรมต่อระบบนิเวศ และก่อให้เกิดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในห่วงโซ่อาหารของมนุษย์

แนวทางจัดการขยะอุตสาหกรรม

    ขยะและของเสียจากภาคอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของมลพิษ ดังนั้นหลายโรงงานจึงหันมาให้ความใส่ใจในการบำบัดของเสียเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวคิด Lean Manufacturing หรือกระบวนการลดความสูญเปล่าที่ไม่จำเป็น ผ่านการนำกลับมาใช้ใหม่ บำบัด และเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังงาน ตลอดจนการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อติดตามและควบคุมการจัดการของเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่กำลังเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วโลก

เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะพลิกโฉมการจัดการขยะในอนาคต

    Green City Times ได้รวบรวมและนำเสนอ 5 เทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในอนาคต เพื่อการจัดการขยะอย่างอัจฉริยะไว้ดังนี้

1. เซ็นเซอร์วัดระดับขยะในถัง (Waste-Level Sensors)

เซ็นเซอร์วัดระดับขยะในถังจะเก็บข้อมูลของปริมาณขยะ และช่วยกำหนดเวลาที่ต้องทำการเก็บขยะไปกำจัด ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการกำจัดขยะ รวมถึงพลังงานที่ต้องใช้หากต้องขนขยะด้วยรถบรรทุกเพื่อนำไปยังแหล่งทิ้งของเสีย

2. กระบวนการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน (Waste-to-Energy)

กระบวนการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานจะช่วยลดการใช้หลุมฝังกลบด้วยการแปรรูปขยะให้เป็นเชื้อเพลิง ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การเปลี่ยนเป็นแก๊ส และการย่อยสลายแบบไร้ออกซิเจน ซึ่งใช้กับขยะได้หลากหลายประเภท

3. ระบบจัดเก็บขยะด้วยท่อลมดูด (Pneumatic Waste-Collection Systems)

ระบบจัดเก็บขยะด้วยท่อลมดูดจะใช้เทคโนโลยีสูญญากาศในการลำเลียงขยะไปยังโรงงานแปรรูปโดยตรงผ่านท่อใต้ดิน โดยที่แรกที่ติดตั้งระบบนี้คือเขตอัปเปอร์แมนฮัตตันที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และคาดว่าจะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศและการจัดเก็บขยะโดยไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ

4. ถังขยะอัจฉริยะ (Smart Waste Containers)

ถังขยะอัจฉริยะมาพร้อมระบบชั่งน้ำหนักและสแกนในตัว รวมถึงเทคโนโลยีบีบอัดเพื่อเพิ่มความจุ ถังเหล่านี้จะแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติเมื่อต้องการเก็บขยะ จึงช่วยลดความถี่ในการจัดเก็บ

5. ระบบรีไซเคิลที่ขับเคลื่อนด้วย AI (Recycling AI)

ระบบรีไซเคิลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใช้กล้องและเครื่องตรวจจับเพื่อคัดแยกขยะโดยอัตโนมัติ ซึ่งเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมกับลดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ

    จะเห็นได้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีส่วนอย่างมากในการจัดการขยะ ซึ่งการนำนวัตกรรมเหล่านี้มาใช้จะช่วยสะท้อนความมุ่งมั่นของภาคอุตสาหกรรมในการรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงส่งเสริมประสิทธิภาพในการจัดการของเสีย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลดีต่อสังคมโดยรวมต่อไป